เมืองโบราณที่น่าสนใจในอังกฤษ
เมืองโบราณที่น่าสนใจในอังกฤษ
ซอลส์บรี

ซอลส์บรี (อังกฤษ: Salisbury) เป็นนครที่ตั้งอยู่ในมณฑลวิลท์เชอร์ในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ
ซอลส์บรีเป็นเมืองที่มีเนื้อที่มากที่สุดในดิสตริคท์ซอลส์บรี
ในสมัยโบราณเมืองนี้บางครั้งก็เป็นที่รู้จักกันว่า “นิวเซรัม” (New Sarum)
เพื่อให้แตกต่างจากที่ตั้งเดิมของเมืองซอลส์บรีที่ “โอลด์เซรัม” (Old Sarum) แต่ชื่อนี้ไม่ค่อยเป็นที่ใช้กันเท่าใดนัก
ซอลส์บรีเป็นจุดที่แม่น้ำห้าสายเล็ก ๆ มาบรรจบกัน ได้แก่
แม่น้ำแนดเดอร์ แม่น้ำเอบเบิล แม่น้าไวลี แม่น้ำบอร์น และแม่น้ำเอวอนของแฮมเชอร์
บาธ

บาธ (ภาษาอังกฤษ: Bath)เป็นเมืองที่มีฐานะนครในมณฑลซอมเมอร์เซ็ทในภาคการปกครองตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ
บาธตั้งอยู่ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันตก 156 กิโลเมตร
และจากบริสตอลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 21 กิโลเมตร
บาธมีประชากรทั้งหมดประมาณ 80,000 คน บาธได้รับพระราชทานฐานะเป็น “นคร” โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่
1 ในปี ค.ศ. 1590,[2] และได้เป็นเทศบาลมณฑล ในปี ค.ศ. 1889
ที่ทำให้บาธเป็นอิสระจาการบริหารของมณฑลซอมเมอร์เซ็ท
บาธเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลเอวอนเมื่อเอวอนได้รับฐานะเป็นมณฑลในปี ค.ศ. 1974
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996
เมื่อมณฑลเอวอนถูกยุบบาธก็กลายเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลท้องถิ่นระดับเดียวของบาธและตะวันออกเฉียงเหนือของซอมเมอร์เซ็ท
(B&NES) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลภูมิศาสตร์แห่งซอมเมอร์เซ็ท
ตัวเมืองบาธตั้งอยู่เนินหลายลูกในหุบเขาของแม่น้ำเอวอนในบริเวณที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของโรมัน
ผู้สร้างโรงอาบน้ำโรมัน (Roman Bath) และวัดและตั้งชื่อเมืองว่า “Aquae
Sulis” เมืองบาธเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบทำพิธีราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษที่มหาวิหารบาธ
ในปี ค.ศ. 973 ต่อมาในสมัยจอร์เจียบาธกลายเป็นเมืองน้ำแร่ที่เป็นที่นิยมกันมากซึ่งทำให้เมืองขยายตัวขึ้นมากและมีสถาปัตยกรรมจอร์เจียที่เด่นๆ
จากสมัยนั้นที่สร้างจากหินบาธที่เป็นหินสีเหลืองนวล
เมืองบาธได้รับฐานะเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1987
และมีโรงละคร, พิพิธภัณฑ์และสิ่งสำคัญทางวัฒนธรรมและทางการกีฬา
ที่ทำให้กลายเป็นเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยมีนักท่องเที่ยวค้างคืนหนึ่งล้านคน
และนักท่องเที่ยววันเดียว 3.8 คนต่อปี
เมืองบาธมีมหาวิทยาลัยสองมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยและสถานศึกษาอื่นๆ
แรงงานส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการบริการและมีความเจริญเติบโตทางด้านข้อมูลและเทคโนโลยีที่สร้างงานให้แก่ผู้อยู่อาศัยในเมืองบาธเองและบริเวณปริมณฑล
ยอร์ก

ยอร์ก (อังกฤษ: York) เป็นนครที่ยังมีกำแพงเมืองโบราณล้อมรอบที่ตั้งอยู่ในนอร์ธยอร์กเชอร์ในภูมิภาคยอร์กเชอร์และแม่น้ำฮ้มเบอร์ของอังกฤษ
นครยอร์กตั้งอยู่ในบริเวณที่แม่น้ำอูสและแม่น้ำฟอสส์
ยอร์กเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และมีบทบาทมาเกือบตลอด
2,000 ปีที่ก่อตั้งมา เมืองยอร์กก่อตั้งเป็นเมืองป้อมปราการเอบอราคุม (Eboracum) ในปี ค.ศ. 71
โดยโรมัน และได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงของบริทาเนียน้อย (Britannia
Inferior)[1]
ระหว่างสมัยโรมันบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เช่นจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชมีส่วนเกี่ยวข้องกับเมือง
จักรวรรดิโรมันทั้งหมดปกครองจากยอร์กเป็นเวลาสองปีโดยจักรพรรดิเซปตีมิอุส เซเวรุส
(Septimius Severus)
หลังจากชาวแองเกิลส์เข้ามาตั้งถิ่นฐานยอร์กก็ได้รับชื่อใหม่เป็น
“Eoferwic”
ของราชอาณาจักรนอร์ทธัมเบรีย เมื่อชนไวกิงเข้ายึดเมืองในปี ค.ศ.
866 ก็เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นจอร์วิกของราชอาณาจักรจอร์วิก (Jórvík) ที่มีอาณาบริเวณครอบคลุมทางบริเวณตอนเหนือของอังกฤษเกือบทั้งหมด
จนกระทั่งราว ค.ศ. 1000 เมืองจึงมารู้จักกันในชื่อ “ยอร์ก”
ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 มีพระราชประสงค์ที่จะตั้งยอร์คเป็นเมืองหลวงของอังกฤษแต่ก่อนที่จะสำเร็จพระองค์ก็ทรงถูกถอดจากการเป็นพระมหากษัตริย์เสียก่อน หลังจากสงครามดอกกุหลาบ ยอร์คก็กลายเป็นที่ตั้งของสภาแห่งภาคเหนือ (Council of the North) และมีฐานะที่ยอมรับกันว่าเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือ
จนกระทั่งหลังจากการฟื้นฟูราชวงศ์เท่านั้นที่ความสำคัญทางการเมืองของยอร์คเริ่มลดถอยลง ภาคยอร์กเป็นหนึ่งในภาคคริสตจักรในคริสตจักรแห่งอังกฤษเช่นเดียวกับภาคแคนเทอร์เบอรี
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 คำว่า “นครยอร์ก” หมายถึงบริเวณที่รวมทั้งบริเวณรอบนอกออกไปจากเขตตัวเมืองเก่า
บริเวณปริมณฑลยอร์กมีประชากรด้วยกันราว 137,505 คน
แต่เมื่อรวมทั้งรอบนอกแล้วก็มีด้วยกัน 193,300 คน
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://goo.gl/KHNSDS
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น